กติกา บาคาร่า

บาคาร่าเป็นหนึ่งในเกมไพ่ยอดนิยมตลอดกาลของวงการคาสิโน ด้วยรูปแบบการเล่น กติกา บาคาร่า ที่เข้าใจง่าย คล้ายกับไพ่ป๊อกเด้งที่คนไทยคุ้นเคย แต่มีความแตกต่างที่ผู้เล่นสามารถเลือกเดิมพันได้ทั้งฝั่งผู้เล่น (Player) และฝั่งเจ้ามือ (Banker) โดยแต้มสูงสุดของไพ่คือ 9 แต้ม และฝั่งที่ทำแต้มได้ใกล้ 9 แต้มมากที่สุดจะเป็นฝ่ายชนะ ซึ่งเน้นการวัดดวงเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม ถึงแม้กติกาโดยรวมจะไม่ซับซ้อน แต่ในรายละเอียดปลีกย่อยยังมีข้อกำหนดที่แตกต่างกันไปในแต่ละคาสิโน ดังนั้นก่อนจะเริ่มวางเดิมพัน ผู้ที่ต้องการทดลองเล่นบาคาร่าจึงควรศึกษากฎ กติกา บาคาร่า ให้เข้าใจถี่ถ้วนเสียก่อน เพื่อป้องกันความสับสนและข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น 

 

ทำความรู้จักกับกฎ กติกา บาคาร่า และวิธีการเล่นอย่างละเอียด

การเดิมพันบาคาร่า อธิบายคำศัพท์พื้นฐานที่มักพบบ่อยๆ เพื่อให้ผู้เล่นมือใหม่สามารถเข้าใจกฎ กติกา บาคาร่า ได้ง่าย พร้อมเริ่มต้นเดิมพันได้อย่างมั่นใจ

  1. อุปกรณ์และผู้เล่นในเกมบาคาร่า อุปกรณ์หลักของเกมบาคาร่าคือ ไพ่ 6-8 สำรับ (ขึ้นอยู่กับคาสิโน) โดยไพ่ที่นำมาใช้เล่นจะถูกนำมาตัดปนกันแล้วจัดเรียงใส่ชู (Shoe) สำหรับแจกไพ่โดยเฉพาะ ส่วนผู้ที่เกี่ยวข้องกับเกมประกอบด้วย
  • ผู้เล่น คนที่วางเดิมพัน ณ โต๊ะบาคาร่า ซึ่งสามารถเลือกแทงได้ทั้งฝั่ง Player หรือ Banker ตามใจชอบ
  • เจ้ามือ (Dealer) คนแจกไพ่ควบคุมเกม และจ่ายเงินให้กับผู้ชนะในแต่ละตา
  • ผู้ตัดสิน (Caller) คอยดูแลให้เกมดำเนินไปด้วยความเรียบร้อยตามกฎ และตัดสินหากเกิดกรณีพิพาท
  1. กติกา บาคาร่า เบื้องต้น
  • เป้าหมายของบาคาร่า คือการทายผลให้ได้ว่าไพ่ฝั่ง Player หรือ Banker จะมีแต้มเท่าไหร่ โดยสามารถเลือกเดิมพันข้างใดข้างหนึ่ง หรือเสมอ (Tie) ซึ่งทั้งสองฝั่งจะได้แต้มเท่ากัน
  • การนับแต้มไพ่นั้น A=1แต้ม, 2-9=แต้มตามหน้าไพ่, 10-K=0แต้ม โดยหากนับแล้วได้แต้มรวมเกิน 10 จะนับเอาเฉพาะหลักหน่วย เช่น 8+7=15 จะนับเป็น 5แต้ม
  • เริ่มเกม เจ้ามือจะแจกไพ่ให้ฝั่งละ 2 ใบ ลงบนกรอบ Player และ Banker โดยเปิดไพ่ทีละฝั่งจนครบ
  • หลังจากเปิดไพ่แล้ว หากฝั่งใดมีแต้มรวม 8-9 แต้ม (Natural Win) จะถือว่าเป็นฝ่ายชนะทันที โดยไม่ต้องแจกไพ่เพิ่ม
  1. กติกาการจั่วไพ่ใบที่ 3 หากเปิดไพ่ 2 ใบแรกแล้ว ทั้งสองฝั่งมีแต้มน้อยกว่า 8 แต้มเหมือนกัน จะมีการจั่วไพ่ใบที่ 3 ตามเงื่อนไขดังนี้

ฝั่ง Player

  • แต้ม 0-5 แต้ม จั่วไพ่เสมอ
  • แต้ม 6-7 แต้ม ต้องหยุด ไม่จั่วไพ่เพิ่ม

ฝั่ง Banker

  • แต้ม 0-2 แต้ม จั่วไพ่เสมอ
  • แต้ม 3 แต้ม หากผู้เล่นจั่วไพ่ใบที่ 3 ได้แต้ม 1-7 จึงจะจั่วตาม
  • แต้ม 4 แต้ม หากผู้เล่นจั่วไพ่ใบที่ 3 ได้แต้ม 2-7 จึงจะจั่วตาม
  • แต้ม 5 แต้ม หากผู้เล่นจั่วไพ่ใบที่ 3 ได้แต้ม 4-7 จึงจะจั่วตาม
  • แต้ม 6 แต้ม หากผู้เล่นจั่วไพ่ใบที่ 3 ได้แต้ม 6-7 จึงจะจั่วตาม
  • แต้ม 7 แต้ม ต้องหยุดทุกกรณี ไม่จั่วไพ่เพิ่ม
  1. การนับผลแพ้ชนะและจ่ายเงินรางวัล
  • หากลงเดิมพันฝั่งที่ชนะ (Player/Banker) จะได้รับเงินรางวัลเท่ากับยอดเดิมพัน หักค่าคอมมิชชั่น (Commission) 5% กรณีแทง Banker ชนะ
  • หากทั้งสองฝั่งมีแต้มเสมอกัน (Tie) และมีการลงเดิมพันในช่องเสมอ จะได้รับเงินรางวัลเป็น 8 เท่าของยอดเดิมพัน
  • แต้มไพ่ปัดเศษลง เช่น มี 5+4 = 9 ไม่ใช่ 19
  • 5. อัตราต่อรอง และการจ่ายผลตอบแทน
  • ลงเดิมพันฝั่ง Player ชนะ ได้เงินรางวัลเท่ายอดเดิมพันเต็มจำนวน (1:1)
  • ลงเดิมพันฝั่ง Banker ชนะ ได้เงินรางวัลเท่ายอดเดิมพัน หักค่าคอมมิชชั่น 5%
  • ลงเดิมพันเสมอ (Tie) ได้เงินรางวัล 8 เท่าของยอดเดิมพัน (8:1)
  • Player Pair หรือ Banker Pair คือการแทงว่าไพ่คู่แรกของฝั่งใดจะเป็นไพ่คู่ (เช่น 4♠,4♣) จ่าย 11 เท่า (11:1)
  • Player Natural หรือ Banker Natural คือการได้ไพ่ 8 หรือ 9 แต้มในไพ่ 2 ใบแรก จ่าย 9 เท่า (9:1)

การศึกษา กติกา บาคาร่า พื้นฐานให้เข้าใจ

นับเป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญของนักพนันมือใหม่ที่จะช่วยให้การเล่นมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะนอกจากจะลดความสับสนแล้ว ยังช่วยให้สามารถวางแผนการทำกำไรได้ถูกต้องแม่นยำยิ่งขึ้น สิ่งสำคัญคือต้องไม่ลืมที่จะศึกษา กติกา บาคาร่า เพิ่มเติมของแต่ละคาสิโนด้วยไม่ว่าจะเป็นบาคาร่าเว็บตรง หรือบาคาร่าall เนื่องจากบางแห่งอาจมีกติกาปลีกย่อยที่แตกต่างออกไปจากมาตรฐานทั่วไป

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะเข้าใจกฎและวิธีเล่นเป็นอย่างดี ผู้เล่นก็ไม่ควรประมาท เพราะบาคาร่าถือเป็นเกมที่อาศัยดวงเป็นหลัก ไม่มีทักษะใดๆ ที่รับประกันได้ว่าจะชนะเดิมพันเสมอไป ดังนั้น จึงควรเล่นด้วยความระมัดระวัง กำหนดงบประมาณที่เหมาะสม และควรยุติการเล่นทันทีถึงแม้จะได้กำไร เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการตัดสินใจผิดพลาดเนื่องจากความโลภ ซึ่งส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินได้ในอนาคต

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *